อุปกรณ์ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้มาตราฐานต้องมีอะไรบ้าง ?
ข้อกำหนดตามมาตราฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าเกี่ยวกับวงจรย่อยที่จ่ายไฟให้กับ อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EVSE (ELECTRIC VEHICLE SUPPLY EQUIPMEN) นั้นทางการไฟฟ้านครหลวงได้กำนดมาตราฐานเพื่อป้องกันอันตรายต่อบุคคล โดยกำหนดให้
- ต้องมีสายดิน และเครื่องตัดไฟรั่ว
วงจรย่อยที่จ่ายไฟให้อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ต้องมีสายดิน และเครื่องตัดไฟรั่ว RCD และต้องมีขนาดพิกัดกระแสไม่น้อยกว่าพิกัดของเครื่องป้องกันกระแสเกิน
* ตำแหน่งการติดตั้งเครื่องตัดไฟร่ัวสามารถติดตั้งได้ที่แผงวงจร ที่ตำแหน่งก่อนเข้าที่ อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้าหรือภายในอุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ควรติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วที่บริเวณแผงวงจรหรือก่อนเข้าเต้ารับ
- วงจรย่อย 1 วงจร ต่อ 1 อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า
วงจรย่อยแต่ละวงจรสามารถจ่ายไฟให้ อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ได้ 1 ชุดเท่านั้น วงจรย่อยที่จ่ายไฟให้อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ต้องแยกจากการจ่ายไฟให้กับโหลดอื่นๆ
- สายไฟพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่า
สายไฟของวงจรย่อยที่จ่ายไฟให้ อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ต้องมีขนาดพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของกระแสด้านไฟเข้า (Input) ของอุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า และไม่ต่ำกว่าพิกัดกระแสของเครื่องป้องกันกระแสเกิน
- กำหนด Demand factor
Demand factor เท่ากับ 1 สำหรับโหลด EVSE ในการคำนวณหาขนาดสายป้อนและ สายเมน
- เครื่องป้องกันกระแสเกินพิกัด
อุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ต้องมีเครื่องป้องกันกระแสเกินพิกัดกระแสไม่ต่ากว่าพิกัดกระแสด้านไฟเข้า (Input)
- ตำแหน่งการติดต้ัง
ตำแหน่งติดต้ังเต้ารับโหมด 2 หรือโหมด 3 (กรณีมีเต้ารับ) ติดตั้งให้อยู่สูงจากพื้นผิวการจอดของยานยนต์ (Parking surface) ไม่น้อยกว่า 0.75 เมตร แต่ไม่เกิน 1.2 เมตร
- เครื่องตัดไฟรั่วต้องมีปุ่มทดสอบการทำงาน เครื่องตัดไฟรั่วต้องมีปุ่มทดสอบการทำงานและกำหนดให้มีระยะเวลาการตรวจสอบการทำงานของเครื่องตัดไฟรั่วทุกระยะ 6 เดือน
* กรณีติดตั้งอุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า ภายนอกอาคาร วิธีการเดินสายไฟฟ้าวงจรย่อยกำหนดให้ใช้วิธีร้อยท่อฝังดิน หรือ ร้อยท่อเกาะผนังเท่านั้น
* กรณีบริเวณที่อยู่ต่ำกว่าระดับผิวดินและในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม ควรมีมาตรการหรือระบบป้องกันน้ำท่วม
การดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเพราะต้องรู้จักพฤติกรรมของระบบไฟฟ้า อุปกรณ์การจ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า และสภาพแวดล้อมของการใช้ไฟฟ้า เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และคำนวณตามหลักของคณิตศาสตร์ เพื่อหาค่าที่มีความปลอดภัย