8 ข้อเสนอแนวทางผลักดันประเทศไทยสู่สังคม EV อย่างเต็มรูปเเบบจาก EVAT

ท่ามกลางกระแสของโลกที่เรื่องของความยังยืนถูกให้ความสำคัญในทุกอุตสาหกรรม สำหรับภาคยานยนต์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตประจำวันของคนจำนวนมากนั้นย่อมเป็นส่วนสำคัญที่สร้างผลกระทบได้อย่างมหาศาลทั้งในทางลบและทางบวก เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องยังอยู่ในขั้นตอนของการที่ต้องส่งเสริมให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายในบ้านเรา ล่าสุดสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EVAT เสนอข้อผลักดันเน้นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ EV อย่างเเพร่หลาย พร้อมการจัดทำ EV Roadmap อย่างเป็นรูปธรรม เเนะภาครัฐควรเเก้ไขข้อกฎหมายในการจดทะเบียนยานยนต์ให้ชัดเจน พร้อมการจัดโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม ซึ่งทางนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าย้ำชัด ภาครัฐคือกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนเเปลง

สืบเนื่องจากสถานการณ์การใช้ EV มีการเปลี่ยนเเปลงอย่างเห็นได้ชัด จากข้อมูลของกรมขนส่งทางบก ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 สถิติการจดทะเบียนใหม่ของ EV เเบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เเละไฮบริด (HEV) ในครึ่งปีเเรก (2562) มีจำนวนมากถึง 15,366 คัน ซึ่งคิดเป็นกว่า 75 เปอร์เซนต์ ของยอดจดทะเบียนปี 2561 ทั้งปีที่มีจำนวนทั้งสิ้น 20,344 คัน ในส่วนของการจดทะเบียนใหม่ประเภทยานยนต์เเบบเเบตเตอรี่ (BEV) ในครึ่งปีเเรก (2562) มีจำนวน 420 คัน ซึ่งสูงกว่ายอดจดทะเบียนใหม่ของปี 2561 ทั้งปีที่มีอยู่ราว ๆ 325 คัน เเละมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะประมาณ 340 เเห่งทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่าตัวเลขการจดทะเบียน EV ในครึ่งปีเเรก (2562) มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเเละมีเเนวโน้มที่การจดทะเบียนจะมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เล็งเห็นถึงสถานการณ์การใช้ EV ในปัจจุบันเเละอนาคต จึงได้มีการร่างข้อเสนอเเนวทางการส่งเสริม EV ประกอบไปด้วย 8 ข้อหลักที่มุ่งหวังให้ภาครัฐนำข้อเสนอเหล่านี้มาปรับใช้ในการดำเนินนโยบายบริหารประเทศ โดยข้อเสนอเเนวทางการส่งเสริม EV ในประเทศไทย รวมทั้งหมด 8 ข้อหลัก ได้เเก่

  1. การจัดทำเเผนที่นำทางเรื่อง EV เเบบบูรณาการ (EV Roadmap) อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทางสมาคมเน้นว่าต้องมีการกำหนดเป้าหมายของจำนวน EV เเละสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างเหมาะสม พร้อมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรม EV ในประเทศตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ทางสมาคมยังได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายโดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อการบูรณาการที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
  2. ทางสมาคมเเนะให้รัฐพิจารณาปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆ อาทิ ให้รถสามล้อไฟฟ้าเเละรถรับจ้างไฟฟ้าสามารถจดทะเบียนได้อย่างเสรี รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้รถสามล้อไฟฟ้าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งทางสมาคมยังเสนอให้มีการเเยกการจดทะเบียน EV ระหว่างประเภทปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) เเละไฮบริด (HEV) เพื่อให้ทั้งภาคเอกชนและรัฐสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างละเอียด และนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้มากขึ้น
  3. การส่งเสริมการใช้ EV ซึ่งภาครัฐควรออกมาตรการดังต่อไปนี้ 3.1 ส่งเสริมให้ประชาชนซื้อ EV ได้ในราคาที่เหมาะสม เช่น การลดภาษีส่วนบุคคลสำหรับผู้ซื้อ EV 3.2 เพิ่มแรงจูงใจสำหรับผู้ใช้ EV อาทิ การออกมาตรการเพิ่มหัวจ่ายประจุไฟฟ้าตามที่จอดสาธารณะเเละเพิ่มสิทธิในการวิ่งรถยนต์ในช่องทางพิเศษ 3.3 หน่วยงานรัฐควรเป็นผู้นำด้านการใช้ EV ก่อน ด้วยการจัดซื้อ EV เเบบเเบตเตอรี่ตามมติครม. 3.4 ขยายการใช้ EV ในรถโดยสารสาธารณะ ได้เเก่ ขสมก. รถตุ๊กตุ๊ก รถเเท็กซี่ ควรเปลี่ยนเป็น EV ทั้งหมด 3.5 สนับสนุนให้มีการเเยกประเภทป้ายทะเบียน EV เเบบเฉพาะ โดยการใช้สีเเละสัญลักษณ์บนป้ายทะเบียนที่สามารถมองเห็นเเละเเยกเเยะได้ สำหรับป้ายที่เป็นประเภทไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ (BEV) เเละประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชน เช่นหากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่เข้าช่วยเหลือจะสามารถตระหนักได้จากสีป้ายทะเบียนเพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าช่วยเหลือ เเละการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่ในการช่วยลดมลภาวะเเละรักษาสิ่งเเวดล้อม
  4. ควรมีการส่งเสริมการผลิต EV ทั้งในรูปเเบบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเเละรถสามล้อไฟฟ้า
  5. เนื่องจากจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีย่อมส่งผลให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมตามมา จึงเสนอให้ส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเเละการผลิต EV โดยควรจัดให้มีการสนับสนุนการสร้างงานวิจัยเเละพัฒนาเพื่อยกระดับผู้ประกอบการ เเละการพัฒนาเเพลตฟอร์มเเบบเปิดสำหรับ EV (EV Open Platform) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเเพลตฟอร์มมาต่อยอดได้
  6. การจัดทำมาตรฐาน EV และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควรมีการออกมาตรฐานยานยนต์ที่ครอบคลุม รวมไปถึงการจัดให้มีหน่วยงานทดสอบเเละรับรองมาตรฐานของ EV เเละเเบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพเเล้ว โดยใช้เเนวทางตามมาตรฐานสากล
  7. ควรมีการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ EV อย่างเช่น การสนับสนุนให้มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าเเบบ Quick Charge ตามสถานที่ต่างๆ
  8. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรด้าน EV เช่น ให้มีการอบรมเเละการจัดทำหลักสูตรวิชาชีพในสถาบันการศึกษา

ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวถึงข้อเสนอดังกล่าวว่า “ทางสมาคมช่วยกันระดมความคิดในการจัดทำข้อเสนอทั้งหมดจากทั้งภาคเอกชน ภาควิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์และมีส่วนเกี่ยวข้อง ในส่วนต่อไปผมคิดว่าทางภาครัฐจะเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะสนับสนุนให้ข้อเสนอดังกล่าวสามารถทำได้จริงในทางปฏิบัติเเละเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทางสมาคมยินดีให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในทุกๆ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการใช้เเละพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเเพร่หลายเเละการใช้พลังงานไฟฟ้าก็ยังสามารถช่วยลดมลพิษ ปัญหาสิ่งเเวดล้อม เเละปัญหาโลกร้อนที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย”

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *